หน้ากากอนามัย 4 ชั้น N95 สำหรับสวมใส่ครอบจมูกและปาก ชนิดใช้แล้วทิ้งเพื่อป้องกันเชื้อแบคทีเรีย และฝุ่นละอองขนาด 0. 1 ไมครอน กรองอนุภาค PM 2.
3 ไมครอน กรองได้ละเอียดกว่าชนิดแรก แต่มีข้อเสียอยู่ที่หากใส่ไปนานๆ จะทำให้หายใจลำบาก 3) หน้ากากอนามัยคาร์บอน เป็นหน้ากากที่มีความสามารถในการกรองฝุ่น รวมไปถึงควันและกลิ่นไม่พึงประสงค์บางอย่างได้ เนื่องจากมีส่วนผสมของตัวกรอง (Filter) ที่เป็นคาร์บอน สามารถกรองเชื้อแบคทีเรียได้ 95% กรองฝุ่นละอองขนาด 3 ไมครอนได้ถึง 66. 37% 4) หน้ากากผ้า เป็นหน้ากากที่ถักทอจากผ้า ส่วนใหญ่จะผลิตจากผ้าฝ้าย มีคุณสมบัติในการกรองฝุ่นละออง 5) หน้ากากอนามัยที่ใช้ในห้องคลีนรูม ซึ่งมี 2-3 ชั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งาน มีคุณสมบัติเพื่อป้องกันสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย น้ำมูก รวมไปถึงฝุ่นละอองและอนุภาคต่างๆ ไม่ให้ปนเปื้อนในห้องคลีนรูม โดยหน้ากากที่ใช้ในห้องคลีนรูมจัดอยู่ในประเภท สินค้าสิ้นเปลืองห้องคลีนรูม (Cleanroom Consumables/ Consumable Products) มาตรฐานสำคัญที่ใช้วัดประสิทธิภาพของหน้ากากอนามัย สถาบัน FDA หรือ อย. ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้กำหนดมาตรฐานทดสอบหน้ากากอนามัยที่ใช้ในโรงพยาบาล โดยแบ่งจากประสิทธิภาพในการกรอง ดังนี้ แผนภาพจำลองขนาดอนุภาคต่างๆ 1) BFE > 99% (Bacterial Filtration Efficiency: BFE) เป็นค่าที่บ่งบอกถึงความสามารถของหน้ากากอนามัยในการ กรองอนุภาคแบคทีเรียและเชื้อจุลินทรีย์อื่นๆ ซึ่งมีอนุภาคเฉลี่ย (Mean Particle Size: MPS) ขนาด 3-0.