จึงขับรถมาส่งบอกว่าตรวจสภาพเรียบร้อยแล้ว ตนจึงขับรถกลับบ้านแล้วเอาไปใช้งานตามปกติ กระทั่งวันนี้ ขณะตนนั่งในรถ ซึ่งจอดอยู่ที่การไฟฟ้านางรอง สามีลงไปจ่ายค่าไฟ ได้มีเจ้าหน้าที่จากบริษัทไฟแนนซ์ มาแสดงตนยื่นเอกสารและบอกว่ารถคันนี้ค้างชำระงวดหลายเดือน จะต้องเอารถไปคืนบริษัท ตนตกใจมากแทบช็อค เพราะซื้อเงินสด เมื่อสามีเดินออกมาจึงเจรจากันและพากันมาที่ สภ. นางรอง โดยเจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์นำเอกสารการจำนองรถให้ดู ว่ารถคันนี้นำไปเข้าไฟแนนซ์เมื่อเดือน ส. 62 และไม่ได้จ่ายค่างวด พร้อมยื่นเอกสารการขอรับรถคืน นางจร กล่าวต่อว่า ตนกับสามีอาชีพทำนา อุตสาห์เก็บหอมรอมริบ ไม่อยากจะเป็นหนี้ใคร หอบเงินที่เก็บได้มาซื้อรถเป็นเงินสด และรถคันนี้เป็นรถคันแรกของครอบครัว แต่สุดท้ายเหลือตีนเปล่า จึงอยากจะดำเนินคดีคู่กรณีจนถึงที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากตำรวจรับแจ้งความแล้ว ได้เข้าไปตรวจสอบเต้นท์รถดังกล่าว พบเป็นเพิงเล็กๆ มีรถจอด 1 คัน มีบริการล้างอัดฉีด แต่ไม่พบเจ้าของเต็นท์ หลังจากบริษัทไฟแนนซ์ ยึดเอารถไปแล้ว ทำให้สองสามีภรรยาไม่มีรถกลับบ้านเพราะหมดเวลาวิ่งของรถโดยสารประจำทาง หน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ จึงอาสาขับรถเอาสองสามีภรรยาไปส่งบ้าน
นครราชสีมา บุรีรัมย์ อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ ในราคาเท่ากับท้องตลาดแล้วแต่สภาพรถที่ได้มา ส่วนใหญ่จะอยู่ที่คันละ 300, 000-400, 000 บาท ทำมาแล้วนับร้อยคัน เป็นการซื้อมาขายไป มีรายได้หมุนเวียนหลายสิบล้านบาท ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหานายกิตติศักดิ์ กับนายท็อปศิริ ร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร พร้อมส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ. บุรีรัมย์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้ จากการตรวจสอบข้อมูล พบว่ารถยนต์คันดังกล่าวพบเอกสารหลักฐานเป็นบัตรประกันสุขภาพ ระบุชื่อนายพิทักษ์ สายบุตร อายุ 35 ปี ชาว จ. ชัยภูมิ หมายเลขทะเบียนเดิมคือ บบ 9896 อุบลราชธานี ถูกโจรกรรมไปเมื่อวันที่ 23 ก. พ. 2555 และได้แจ้งหายไว้ที่ สน. บางขุนเทียน กทม. แล้ว ต่อมานายพิทักษ์ได้เดินทางมาดูรถที่หายไปด้วยตัวเอง พร้อมกับมอบช่อดอกไม้ขอบคุณ พล. ประยนต์ ลาสือ และชุด สส. 3 นอกจากนี้จากการสืบสวนขยายผล ได้ทำการตรวจยึดรถยนต์ที่สวมซากและส่งไปจำหน่ายตามร้านจำหน่ายรถมือสองในพื้นที่ต่างๆ ของ ตร. 3 รวมจำนวน 10 คัน พล. ภาณุ กล่าวว่า พฤติกรรมผู้ต้องหารายนี้จะตระเวนรับซื้อซากรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุตามสถานที่ต่างๆ และจะได้คู่มือการจดทะเบียนเล่มจริงมาด้วย จากนั้นจะตัดตัวเลขแชสซีส์รถ เลขตัวถังรถคันนั้นไว้ แล้วเสาะหารถที่ส่วนใหญ่เป็นรถขโมยในรุ่น ยี่ห้อ สีเดียวกันกับคันซากรถ จากนั้นเอาเลขที่ตัดไว้ไปสวมใส่รถคันที่ขโมยมาเชื่อมต่ออย่างแนบเนียนกลมกลืนด้วยความชำนาญ ก็จะได้รถคันใหม่ขึ้นมา แล้วนำไปส่งขายตามเต็นท์ต่างๆ ในราคาถูกกว่าท้องตลาดมาก ผู้ที่ซื้อต่อไม่รู้แน่นอน ฉะนั้นฝากไปยังประชาชนว่า การจะซื้อรถยนต์ตามเต็นท์ต่างๆ ถ้าสงสัยก็ขอให้เจ้าหน้าที่ขนส่งตรวจสภาพให้ละเอียดถี่ถ้วนรัดกุม.