ศ. 2542 _____________________________________________________________________
สร้างภาพจำให้กับลูกค้า เพื่อสร้างความโดดเด่นแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด ลองนึกภาพตามว่ามีลูกค้าเคยซื้อสินค้าจากร้านของเราบนแพลตฟอร์มออนไลน์ แต่จำชื่อร้านไม่ได้ พอค้นหาสินค้าก็เจอสินค้าแบบเดียวกันเต็มไปหมด แต่ลูกค้าจำได้ว่าเคยซื้อจากร้านที่มีกรอบสีฟ้า จึงกลับมาซื้อสินค้ากับร้านเราถูก 2. กำหนดทิศทางในการสื่อสารของธุรกิจ ยิ่งธุรกิจของเรามีการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ มีหน้าร้านออนไลน์ มีช่องทางการสื่อสารเพิ่มขึ้น อีกทั้งมีแอดมินดูแลหลายคน CI จะยิ่งเข้ามามีบทบาทในการทำให้ภาพลักษณ์และการสื่อสารของธุรกิจเป็นไปในทิศทางเดียวกัน มีระเบียบแบบแผน และสร้างแบรนด์ให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น 3. ลดความสับสน การมี Corporate Identity สามารถช่วยลดความสับสนในกรณีที่ธุรกิจมีช่องทางการขายหรือช่องทางการสื่อสารลูกค้าหลายช่องทาง เพราะหากธุรกิจนำ Brand CI มาปรับใช้กับทุกช่องทางการขายหรือช่องทางติดต่อ โดยอาจใช้โลโก้ ฟ้อนต์ และโทนสีเดียวกัน ลูกค้าก็จะรู้ได้ทันทีว่าเป็นของร้านค้าเดียวกัน ตัวอย่างการทำ CI ของแบรนด์ Araya ขั้นตอนการทำ CI หลักการเบื้องต้นของการทำ CI ที่ธุรกิจควรคำนึงถึงมีดังนี้เลย 1. โลโก้ นับได้ว่าเป็นส่วนประกอบขั้นพื้นฐานเลยสำหรับแบรนด์ หากธุรกิจของคุณยังไม่มีโลโก้เป็นของตนเอง อาจเริ่มจากการดีไซน์อย่างง่าย ๆ โดยคำนึงเรื่องการเล่าเรื่องให้โลโก้สื่อถึงผลิตภัณฑ์หรือธุรกิจของเรา ซึ่งสมัยนี้ก็มีโปรแกรมตัวช่วยในการออกแบบโลโก้สำเร็จรูปมากมาย ที่ร้านค้าสามารถนำไปปรับใช้กันได้ หรือหากต้องการให้โลโก้ของเรามีความโดดเด่น ไม่เหมือนใครอย่างแท้จริงก็อาจเลือกใช้บริการออกแบบโลโก้ต่าง ๆ ตามงบประมาณที่มีอยู่ได้เลย ตัวอย่างโลโก้ร้านเกมจาก Classic Game Shop 2.
เป็นการสร้างฐานลูกค้าให้สินค้าด้วยต้นทุนที่น้อยกว่า กลยุทธ์ที่สโตร์แบรนด์ในอเมริกาส่วนใหญ่ใช้เพื่อแข่งกับแบรนด์ดังๆ ก็ใช้วิธีนี้เหมือนกัน แทนที่จะทุ่มเงินไปกับการโฆษณา หรือพัฒนาหีบห่อจนสวยงามเทียบเท่ากับคู่แข่ง สโตร์แบรนด์เหล่านี้กลับมุ่งไปที่การพัฒนาคุณภาพเป็นหลัก แล้วพยายามส่งเสริมให้ลูกค้าได้มีโอกาสใช้สินค้า เพื่อจะได้มีโอกาสเปรียบเทียบว่า ระหว่างสโตร์แบรนด์กับสินค้าแบรนด์อื่นๆ อันไหนจะคุ้มค่าเงินที่จ่ายไปมากกว่ากัน 2. เป็นการตลาดทางเลือกให้กับคนที่ยังไม่ได้ภักดีต่อแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง แน่นอนว่า สำหรับลูกค้าที่มีความภักดีต่อแบรนด์สูง กลยุทธ์แบบนี้คงเปลี่ยนใจพวกเขาไม่ได้ แต่สำหรับลูกค้าที่ไม่ได้หลงรักแบรนด์ไหนเป็นพิเศษจนหัวปักหัวปำ การเสนอตัวเองเป็นทางเลือกใหม่ด้วยราคาที่ย่อมเยาลงมา ย่อมมีโอกาสจะได้ใจและได้เงินจากพวกเขาบ้างพอสมควร นอกจากเรื่องของความภักดีต่อแบรนด์แล้ว สโตร์แบรนด์ยังเป็นทางเลือกสำหรับกรณีที่ลูกค้าต้องการซื้อสินค้าเป็นจำนวนมาก เช่น ซื้อน้ำอัดลมเพื่อเตรียมจัดงานที่บ้าน ซื้อไปแจกในวันแข่งกีฬา ด้วยราคาที่ถูกกว่า ยิ่งซื้อมาก ก็ยังลดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น 3. ใช้เป็นช่องทางเปิดตัวสินค้าตัวเองได้ดีที่สุด ในกรณีที่เรามีร้านขายสินค้าและรับเอาสินค้าติดแบรนด์มาวางจำหน่ายและในวันที่เราต้องการทำสินค้าแบรนด์ของตัวเองขึ้นมาบ้างทางที่ดีที่สุดคือ วางขายคู่กันไปกับสินค้าติดแบรนด์เหล่านั้นเพื่อให้ยอดขายในร้านเราไม่ลดลง โดยในระหว่างนั้นเราก็ตั้งราคาสินค้าให้ไม่ต้องสูงนัก คุณภาพก็อยู่ในระดับที่พอรับได้ ด้วยราคาที่สมเหตุสมผลกับราคาก็อาจเป็นทางเลือกให้คนสนใจในสินค้าแบรนด์ของเราได้เช่นกัน 4.
BCG Matrix คืออะไร? เครื่องมือวิเคราะห์หน่วยธุรกิจ - GreedisGoods GreedisGoods มีการเก็บ Cookies เพื่อมอบประสบการณ์ใช้งานที่ดียิ่งขึ้น หากท่านใช้เว็บไซต์ต่อไปโดยไม่ปรับตั้งค่าเราเข้าใจว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้ ยินยอม ดูรายละเอียด
– 7 Steps สร้างแบรนด์ตัวเอง ให้เป็นที่จดจำในตลาด เพิ่มยอดขายได้ทันตาเห็น ข้อดีของการสร้าง Brand Awareness อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า การสร้าง Brand Awareness เปรียบเสมือนหัวใจของการทำการตลาดของบริษัทเล็กๆ ไปจนถึงบริษัทขนาดใหญ่ ซึ่งข้อดีของการสร้างการรับรู้แบรนด์ จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลย! 1. สร้างความรับรู้แก่ผู้บริโภค มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสินค้าและบริการแบรนด์ใหม่ ๆ ที่เพิ่งเริ่มต้น ที่กลุ่มเป้าหมายไม่รู้จักสินค้าเลย ไม่เคยได้ยิน หรือพบเห็นแบรนด์มาก่อน การสร้าง Brand Awareness เป็นการทำให้ผู้บริโภครับรู้ถึงการมีตัวตนของแบรนด์ (Existence) โดยเบื้องต้น การสร้าง Brand Awareness จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ของเรา กลายไปเป็นหนึ่งในตัวเลือกของสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคเลือกใช้ หรือเป็นหนึ่งในตัวเลือกเพื่อตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการ 2. ทำให้แบรนด์เป็นที่น่าจดจำ การสร้าง Brand Awareness เป็นการสื่อสารถึงภาพลักษณ์ที่ดีของสินค้าและบริการ คุณสมบัติ จุดเด่น การนำไปใช้งาน รวมถึงความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ โดยกระบวนการดังกล่าว นำไปสู่การสร้างความน่าจดจำให้แก่ผู้บริโภค เช่น คิดถึงการบริโภคสินค้าชนิดใด ก็จะนึกถึงสินค้าจากแบรนด์นั้นเป็นอันดับแรก 3.
3 ตัวอักษร Font การเลือกใช้ Font ประจำองค์กร ก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะการใช้ Font ในงานกราฟิกต่างๆ ควรใช้ชุด Font เดียวกันอย่างสม่ำเสมอ การเลือกรูปแบบ Font ให้เหมาะสมกับภาพลักษณ์ขององค์กรก็มีผลต่อการจดจำด้วยเช่นกัน เช่น หากต้องการให้ Brand มีความทันสมัย อาจเลือกใช้ชุด Font ที่ไม่มีหัว ตัวเรียวบาง ประเด็นสำคัญคือไม่ควรเปลี่ยนบ่อยๆ อาจทำให้ลูกค้าสับสนได้ยกตัวอย่างเช่น IKEA ที่ออกแบบ Ads โดยใช้ชุด Font แบบเดียวกัน จัดวางให้มีความ Clean และ Minimal อยู่ตรงไหนคนก็จำได้ 2.