ใช้กับการคาดการณ์ว่าสิ่งนั้นกำลังจะเกิดขึ้น โดยยึดจากสิ่งที่เราคิด เชื่อ หรือ จินตนาการมักใช้ร่วมกับกริยา think, believe, expect, imagine สำนวน be sure, be afraid รวมถึงคำวิเศษ (Adverb) perhaps, certanly, probably ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ His friends think she will become an artist one day. 2. ใช้กับการตัดสินใจโดยทันที (on-the-spot-decision) และเสนอตัวช่วยหรืออาสาทำให้ I will take this jackets. (on-the-spot-decision) Since it's you birthday, I will pay for dinner. (offer) 3. ใช้กับการกระทำ/ เหตุการณ์/ สถานการณ์ ซึ่งจะเกิดขึ้นแน่นอนอยากหลีกเลี่ยงไม่ได้ในอนาคต Jack will be two years old next week. 4. ใช้กับการสัญญา มักใช้กริยา promise, swear, guarantee, etc. และการข่มขู่ ตักเตือน ขอร้อง หวัง I hope pollution levels will drop soon. Be Going To + Verb 1 1. ไม่ได้แปลว่ากำลังไปแต่แปลว่ากำลังจะเมื่อใช้วางแผน หรือตั้งใจจะทำอะไรในอนาคตอันใกล้ I am going to expand her company. ใช้ในการคาดเดาหรือคาดการณ์ว่าสิ่งนั้น หรือเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคตอันใกล้ เพราะได้เห็น มีหลักฐาน รู้ หรือทราบมา Look at those dark clouds!
เวลาเราจะบอกอะไรเกี่ยวกับอนาคต ในภาษาอังกฤษนั้นพูดได้หลายแบบ แต่วันนี้เราจะมาเรียนรู้การใช้ be going to และ will กัน be going to และ will มีความหมายเดียวกันเมื่อใช้คาดการณ์เกี่ยวกับอนาคต เช่น John is going to leave at 6 tomorrow morning. = จอห์นจะออกเดินทางตอน 6 โมงเช้า (be เป็นความรู้พื้นฐาน ซึ่งก็คือ is, am, are, was, were นั่นเอง อันนี้ไม่รู้ไม่ได้นะจ๊ะ) John will leave at 6 tomorrow morning. = จอห์นจะออกเดินทางตอน 6 โมงเช้า ในบางกรณี be going to และ will ก็ใช้ต่างกันโดย be going to จะ ช่วยสื่อให้เห็นว่าผู้พูดกำลังบอกแผนการที่วางไว้ล่วงหน้า I bought some wood because I am going to build a bookcase. = ฉันซื้อไม้เพราะฉันวางแผนว่าจะสร้างชั้นวางหนังสือ I'm going to Egypt next year. = ฉันวางแผนไว้ว่าจะไปอียิปต์ในปีหน้า will จะใช้กับการอาสาหรือการพูดถึงด้วยความสมัครใจ ยินดีช่วยเหลือ (รวมถึงการตัดสินใจทันที การทำนาย คำมั่นสัญญา อย่างที่เราเคยเรียนกันไปแล้วก่อนหน้า) เช่น This bookcase is heavy. I will help you. = ชั้นหนังสือนี่หนักมาก ฉันจะช่วยคุณ(ยก) This homework is difficult. I will teach you.
ใช้ be going to เพื่อกล่าวถึงสิ่งที่เราตั้งใจและตัดสินใจไว้แล้วล่วงหน้า ว่าจะทำ แสดงถึงการกระทำที่ได้มีการวางแผนไว้แล้วว่าจะทำในอนาคตอันใกล้หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือเป็นการวางแผนไว้ก่อนแล้ว (prior plan ไพรเออะ แพลน) นั่นเอง I'm going to have a shower. ผมกำลังจะอาบน้ำ (ชายคนนี้กำลังเปิดประตูเข้ามา มีผ้าเช็ดตัวพร้อมที่จะอาบน้ำ) แต่ ถ้าใช้ will จะหมายถึง การตัดสินใจว่าจะทำสิ่งหนึ่งๆ ในขณะที่พูด เป็นการตัดสินใจที่เกิดขึ้นฉับพลันโดยไม่ได้มีการเตรียมการมาก่อนล่วงหน้า A: I'm sorry. I've spilt some wine on my jacket. B: Don't worry. I'll clean it for you. ก – ผมขอโทษ ผมทำไวน์หกรดเสื้อแจ็กเก็ตของคุณ ข – ไม่ต้องกังวล ดิฉันจะซักให้ อธิบาย คำพูดของภรรยา (B) เป็นการเอ่ยขึ้นทันที หลังจากที่สามี (A) บอกว่าทำไวน์หกรดเสื้อแจ็กเก็ต จึงเห็นได้ว่าภรรยาตัดสินใจทันทีเมื่อสามีพูดจบ โดยที่ภรรยาไม่ได้เตรียมการที่จะพูดมาล่วงหน้าแต่อย่างใด เป็นการเอ่ยว่าจะซักเสื้อให้เมื่อสามีบอกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น A: Why have you moved all the furniture out of this room? B: I'm going to clean the carpet. ก – ทำไมคุณจึงเคลื่อนย้ายเครื่องเรือนทุกชิ้นออกจากห้องนี้ ข – ดิฉันจะทำความสะอาดพรมค่ะ อธิบาย คำพูดของ A ที่ถามว่า "ทำไมคุณจึงเคลื่อนย้ายเครื่องเรือนทุกชิ้นออกจากห้องนี้'' แสดงให้เห็นชัดว่า A แลเห็นเครื่องเรือนวางอยู่นอกห้องนั้นมากมาย จึงเกิดความสงสัยและซักถามถึงเหตุผล ซึ่ง B ได้ตอบให้ทราบถึงความตั้งใจว่า "ดิฉัน จะทำความสะอาดพรม'' คำตอบของ B แสดงถึงการเตรียมการว่าจะทำความสะอาดพรมมาล่วงหน้า จึงได้ทำการเคลื่อนย้ายเครื่องเรือนเหล่านั้นออกมาจากห้อง 3.
= ปีเตอร์โทรมาตอนที่คุณไม่อยู่ เราก็ตอบไปทันที โดยใช้ will ว่า – OK, I will phone him back. = โอเค ฉันจะโทรกลับ แต่พอเวลาผ่านไป แล้วเพื่อนเตือนว่าโทรกลับหาปีเตอร์หรือยัง เขาโทรมาหาคุณนะ แล้วเรากำลังจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร (หรือจะโทรแน่นอน ในอีกไม่นาน) เราก็พูดโดยใช้ going to ว่า – I'm going to call him back. ตัวอย่างสถานการณ์ ประโยคภาษาอังกฤษที่ 2 – Jenny is in hospital = เจนนี่อยู่โรงพยาบาล ถ้าเราได้ยินครั้งแรก แล้วคิดว่าเราจะไปเยี่ยม เราอาจพูดออกมาว่า – I will go and visit her. = ฉันจะไปเยี่ยมหล่อน แต่ถ้าเราคิด และตัดสินใจได้แล้วว่าจะไปวันไหน เมื่อไหร่ ก็พูดว่า – I'm going to visit her tomorrow. = ฉันจะไปเยี่ยมหล่อนพรุ่งนี้ บางครั้งเราก็ไม่จำเป็นต้องคิดหนักว่าจะใช้ will หรือ going to เพราะบางทีความหมายก็แทบจะไม่ต่างกันครับ เช่น – I think the weather will be nice later. – I think the weather is going to be nice later. แต่ถ้าเรารู้หรือเห็นว่าเหตุการณ์บางอย่างจะเกิดขึ้น เราก็สามารถใช้โครงสร้างประโยค "something is going to happen" ได้ครับ ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ ถ้าเราเห็นก้อนเมฆดำๆ บนท้องฟ้า ซึ่งมีโอกาสสูงมากที่ฝนจะตกแน่ๆ เราก็สามารถพูดว่า – It's going to rain.
กดด้านล่างเลย! สั่งซื้อทาง Shopee สั่งซื้อทาง F acebook หรือจะลองอ่าน review หนังสือ Grammar Go! ก่อน คลิกเลย แบบฝึกหัด เรื่อง Future Simple Tense จากหนังสือ Grammar Go! (propose) Your boyfriend _______ you this year. (study) You _______ abroad Next year. (win) You _______ a lottery this time Don't buy it. (meet) You _______ a lot of interesting people. (have) You _______ any problems with work. เฉลยแบบฝึกหัด ตอบ will propose เพราะตรงตามโครงสร้าง Future Simple ทั้งนี้ที่ใช้กาล (Tense) นี้ได้ก็เพราะโจทย์คือเหตุการณ์ที่จะเกิดในอนาคต หรือสังเกตง่าย ๆ คือมีคำบอกเวลา เช่น this year ที่ใช้กับ Future Simple ได้นั่นเอง สังเกต ถ้าจะเปลี่ยนจาก will ไปใช้ be going to จะได้เป็น Your boyfriend is going to you this year. next year. ตอบ will not study / won't study เพราะตรงตามโครงสร้างประโยคปฏิเสธของ Future Simple คือ S + will not / won't + V. 1 ทั้งนี้ที่ใช้กาล (Tense) นี้ได้ก็เพราะมีคำบอกเวลาอย่าง next year ที่แปลว่าปีหน้าอยู่ด้วยนั่นเอง สังเกต ถ้าจะเปลี่ยนจาก will ไปใช้ be going to จะได้เป็น You are not going to study abroad next year.
[et_pb_section fb_built="1″ _builder_version="3. 0. 47″][et_pb_row _builder_version="3. 48″ background_size="initial" background_position="top_left" background_repeat="repeat" custom_padding="0|0px|14. 875px|0px|false|false"][et_pb_column type="4_4″ _builder_version="3. 47″ parallax="off" parallax_method="on"][et_pb_text _builder_version="3. 74″ background_size="initial" background_position="top_left" background_repeat="repeat"] หลักการใช้ may (แนะนำให้จำประโยคตัวอย่างนะ) เราใช้ may เมื่อขออนุญาต–จำได้มั้ย ตอนที่เราเรียนประถม-มัธยม เวลาถึงคาบภาษาอังกฤษ แล้วอยากเข้าห้องน้ำ—เราต้องยืนขึ้นแล้วพูดว่า.. May I go to the toilet, please? (TOILET = ส้วม–ไม่ผิดๆ พูดตรงๆ แต่แรงไปนิดส์นึง) ขอเปลี่ยนเป็น May I go to the restroom, please? (Restroom ไม่ได้แปลว่าห้องพัก แต่เป็นห้องน้ำปกติ–ต่างกับ Bathroom เพราะ Bathroom จะใช้พูดกับเพื่อนและมักจะมีที่อาบน้ำ) แต่–ทั้งนี้ทั้งนั้น– การขออนุญาต โดยใช้ may นั้น–ถูกหลักแกรมม่า — แต่เชยสนิท เวลาใช้พูด เมแนะนำให้ใช้ในสไตล์นี้ เช่น Is it alright if I go to the restroom?
B: Tomorrow. ก – เมื่อไรคุณจะคืนหนังสือของดิฉัน ข – พรุ่งนี้ A: Where are we going to stay tonight? B: In a temple, perhaps. ก – คืนนี้เราจะพักกันที่ไหน ข – บางทีอาจจะพักที่วัด John is going to tell Mary the truth. A: Who is going to tell Mary the truth? B: John. ก – ใครจะเล่าความจริงให้แมรี่ฟัง ข – จอห์น We are going to give Susan a ring. A: Who are we going to give a ring? B: Susan. ก – เราจะให้แหวนแก่ใคร ข – ซูซาน การใช้ be going to 1. ใช้ be going to เพื่อกล่าวถึงเหตุการณ์หรือสถานการณ์บางอย่างใน อนาคตที่มีเหตุบ่งบอกให้เห็นชัดเจนในขณะปัจจุบัน ลักษณะดังกล่าวนี้แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกมั่นใจของผู้พูดเกี่ยวกับเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นตามมา จากสาเหตุปัจจุบัน ในอนาคตอันใกล้ Look at those black clouds in the sky. It's going to rain. Those people are going to get wet. ดูเมฆดำทะมึนในท้องฟ้าเหล่านั้นสิ ฝนกำลังจะตก คนเหล่านั้นกำลังจะเปียก แต่ ถ้าใช้ will จะหมายถึง เราคิดหรือเชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์นั้นในอนาคต ซึ่งภาวะของการเกิดเหตุการณ์ยังห่างไกลกว่าการใช้ be going to That boat doesn't look very safe.
ฉันมั่นใจว่าพรุ่งนี้ฝนจะไม่ตก เรามักจะใช้ be going to กับบางสิ่งที่เราคาดว่าจะเกิดขึ้นเนื่องจากสถาณการณ์ปัจจุบันบ่งชี้ว่าจะเกิด ตัวอย่างเช่น He's running towards the goal, and he's going to score. เขากำลังวิ่งไปที่เป้าหมายและเขาจะได้แต้ม Look at those black clouds. It's going to rain. (เราเห็นว่า it is going to rain จากเมฆดำที่เกิดในขณะนี้) I feel terrible. I think I'm going to be sick. (ฉันคิดว่าฉันจะป่วยเพราะรู้สึกไม่ค่อยดีในขณะนี้) เพื่อนๆ อาจจะสังเกตุเห็นได้ว่า บางครั้งก็ไม่มีความแตกต่างระหว่าง will กับ going to มากนัก ตัวอย่างเช่นเราอาจจะพูดว่า I think the weather will be nice later. หรือ I think the weather is going to be nice later. ฉันคิดว่าอากาศจะดีขึ้นในภายหลัง Those smart phones are well-made. They'll last a long time. หรือ Those smart phones are well-made. They're going to last a long time. โทรศัพท์มือถือพวกนี้ทำมาอย่างดี พวกมันจะทนนาน (ดูเพิ่มเติมเรื่อง หลักการใช้ will won't shall shan't ต่างกันอย่างไร) มาถึงตรงนี้เพื่อนๆ คงจะไม่งงใช่มั๊ยคะว่า การใช้ will and going to ต่างกันอย่างไร บางครั้งเพื่อนๆ อาจจะเห็นในบางตำราบอกว่าการใช้ will มีน้ำหนักมากกว่า going to แต่ในบางตำราก็บอกว่า การใช้ going to มีน้ำหนักมากกว่า will ตรงนี้ก็ไม่เป็นไรนะคะ เอาเป็นว่าขอให้เรารู้ว่าควรจะใช้มันตอนไหน และใช้มันให้ถูกต้องอย่างไร ตรงนี้น่าจะสำคัญกว่านะคะ ยังไงก็ฝากเพื่อนๆ เข้าไปดู แบบฝึกหัด will/be going to พร้อมเฉลย กันด้วยนะคะ ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่ะ