หลอกว่าเป็นคนอื่น การโกหกแบบ "หลอกว่าเป็นคนอื่น" สามารถพบเห็นได้ทั้งการปลอมแปลงการกระทำและตัวตนควบคู่กันไป โดยอาจมีปัญหาส่วนตัวหรือปัญหาอื่นๆ ที่ทำให้รู้สึกเคารพในตนเองต่ำ และคิดว่าคนที่ตนเองนำมาปลอมแปลงนั้นดีกว่า จึงได้ทำเช่นนั้นลงไป 7. ปิดบังเพื่อถนอมน้ำใจ การโกหกแบบสุดท้าย "ปิดบังเพื่อถนอมน้ำใจ" หรือที่ใครๆ อาจเคยได้ยินคำว่า "โกหกสีขาว" มีลักษณะการโกหกแบบที่ทำไปเพราะต้องการสร้างความสบายใจให้อีกคน แต่แท้จริงแล้วผู้โกหกนั้นอาจทำไปเพราะมีความรู้สึกกลัวที่จะบอกความจริง และต้องการให้ตนเองรู้สึกสบายใจมากกว่า มักพบได้ในหมู่คนเอเชียที่มักจะไม่กล้าพูดตรงๆ ------------------------------------------------------------- อ้างอิง: Sintelly, Urban Dictionary
มีแฟนแล้ว แต่ก็หาคนคุยอยู่ (Cushioning) ถัดมาที่ความสัมพันธ์แบบ "ฉันมีแฟนแล้ว แต่ก็หาคนคุยอยู่นะ" คนที่อยู่ในสถานการณ์แบบนี้คือคนที่มีแฟนจริงจัง เป็นตัวเป็นตนแล้ว แต่ก็ยังแอบปัดทินเดอร์หาคนคุยใหม่ๆ แอบให้ใจคนอื่นด้วยบ้าง โดยเหตุผลหลักมาจากความคิดที่ว่า อยากเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เจอคนใหม่ๆ ด้วยเช่นกัน หากว่าคลิกกันมากกว่าคนเก่า ก็จะหยุดเดินต่อกับคนเดิมแล้วเลี้ยวไปหาคนใหม่ที่ดีกว่า 3. อยากมีแฟนแค่วันพิเศษ (Cuffing season) "อยากมีแฟนแค่วันพิเศษ" ไม่พูดถึงแง่มุมนี้คงไม่ได้ เพราะคนรุ่น Gen Z หลายคนกำลังอยู่ในความสัมพันธ์รูปแบบนี้ ซึ่งมักจะเริ่มด้วยความรู้สึกเหงา ไม่อยากอยู่คนเดียว บางทีก็อยากมีแฟน แต่พอมีแฟนขึ้นมาจริงๆ ก็รู้สึกเบื่อ แต่ก็ยังอยากได้รับ ความรัก วนลูปไปมา คนจำนวนหนึ่งเลยนิยมมีความสัมพันธ์แค่ช่วงวันสำคัญ เทศกาล หรือบางฤดูกาลเท่านั้น เช่น ช่วงวันวาเลนไทน์ คริสต์มาส ปีใหม่ ช่วงวันสิ้นปีในหน้าหนาว วันสงกรานต์ เป็นต้น และพอรู้สึกหายเหงาแล้ว ก็จบความสัมพันธ์นั้นไป 4. ไม่ตรงปก ใช้รูปแต่ง/ใช้รูปเก่า (Kittenfishing) ความสัมพันธ์แบบ " ไม่ตรงปก " มาจากการเริ่มสานสัมพันธ์ผ่านการคุยทางแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างแอปฯ นัดเดทก่อน ซึ่งด่านแรกในการรู้จักกันก็คือการดูรูปโปรไฟล์ แต่จะแน่ใจได้ยังไงว่ารูปนั้นคือตัวจริง หรือไม่ก็อาจเป็นรูปเก่าที่ดูดีกว่าปัจจุบัน ทำให้เดาได้ยากว่า ตัวจริงของอีกฝ่ายจะมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร บางคนอาจเอารูปตัวเองในอดีตที่ยังดูดี ดูสวยหล่อ หรือรูปที่ผ่านการตุ๊ง ( แต่งรูป) มาอย่างหนักหน่วง จนไม่เหลือเค้าโครงเดิม นำรูปสวยๆ หล่อๆ มาหลอกลวงและพูดคุยกับอีกฝ่าย 5.
ปั้นน้ำเป็นตัว พูดถึงลักษณะนิสัยของคนที่ชอบพูดแบบ "ปั้นน้ำเป็นตัว" จะเป็นคนที่ชอบการประดิดประดอยคำพูดให้ผู้ฟังเกิดความเข้าใจผิด สิ่งที่บอกเล่าไม่เป็นความจริง มีการใส่สีตีไข่ อาจส่งผลต่อชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของบุคคลได้ ทุกวันนี้มี "ข่าวลือ" จำนวนมากในโลกออนไลน์ ทุกคนจึงจำเป็นต้องหมั่นตรวจสอบข้อมูลและแหล่งอ้างอิงอยู่เสมอ ก่อนจะเชื่อในข้อมูลที่ได้รับมา 4. พูดความจริงไม่หมด เมื่อเกิดประเด็นดราม่าหรือเรื่องที่น่าจับตามองของคนที่มีชื่อเสียงในสังคม เวลาออกมาแถลงข่าวมักจะ "พูดความจริงไม่หมด" หรือพูดความจริงเพียงแค่ครึ่งเดียว เพื่อต้องการหันเหความสนใจให้ผู้คนเข้าใจผิดไปจากข้อมูลที่แท้จริง ซึ่งเมื่อพูดไม่ครบถ้วน การพิจารณาใจความในการประเมินน้ำหนักความจริงอาจคลาดเคลื่อนได้ 5. พูดเวอร์วังเกินจริง การ "พูดเวอร์วังเกินจริง" คือการพูดเรื่องจริงเพียงเล็กน้อย แล้วแต่งเรื่องราวเพิ่มเติมเข้าไป จนกลายเป็นว่าผิดไปจากความจริงอย่างมาก มีการใส่ความเท็จเป็นจำนวนมาก มีความซับซ้อน ซึ่งมักจะทำให้คนหมู่มากสนใจได้เป็นอย่างดี แต่กลับมีความจริงแทบจะน้อยมาก ในหมู่คนรุ่นใหม่ อาจมีการพูดโกหกในลักษณะนี้แบบเล่นๆ กับเพื่อนอยู่มาก และมักจะมีการโต้ตอบว่า "ถ้าคนนี้พูด จะต้องหารล้าน" หรือ "ถ้าคนนี้พูดร้อย ความจริงจะอยู่ที่สิบ" เป็นต้น 6.
ร้านค้าหาบเร่ กิจการเจ้าของคนเดียว 2. ร้านขายก๋วยเตี๋ยว กิจการเจ้าของคนเดียว 3. ขายของออนไลน์ กิจการเจ้าของคนเดียว 4. ขายครีม กิจการเจ้าของคนเดียว 5. ขายเสื้อผ้า กิจการเจ้าของคนเดียว 6. รับจ้างทำเว็บไซต์ กิจการเจ้าของคนเดียว 7. เทรนเนอร์ กิจการเจ้าของคนเดียว 8. รับวาดรูป กิจการเจ้าของคนเดียว 9. นายหน้า กิจการเจ้าของคนเดียว 10. ร้านทำผม กิจการเจ้าของคนเดียว 11. ขายเบเกอรี่ กิจการเจ้าของคนเดียว 12. ที่ปรึกษาด้านการเงิน กิจการเจ้าของคนเดียว 13. รับทำบัญชี กิจการเจ้าของคนเดียว 14. ช่างซ่อมเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ กิจการเจ้าของคนเดียว 15. รับแต่งหน้า กิจการเจ้าของคนเดียว 16. ร้านอาหาร กิจการเจ้าของคนเดียว 17. ร้านกาแฟ กิจการเจ้าของคนเดียว 18. ร้านเสริมสวย กิจการเจ้าของคนเดียว รูปแบบธุรกิจเจ้าของคนเดียว เจ้าของคนเดียว รูปแบบของธุรกิจ จะแบ่งออกเป็น กี่ประเภท?
00 น. มวยไทยเต็มรูปแบบ หมัด เท้า เข่า ศอก ความมัน(ส์)ระดับโลก กดติตตามเพจแม็กซ์ มวยไทย ได้ที่
ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล | 05 เม. ย. 2565 เวลา 7:14 น.
ไม่เป็นตัวเอง (Eclipsing) ความสัมพันธ์แบบ "ไม่เป็นตัวเอง" จะมีลักษณะสถานการณ์ที่ฝ่ายหนึ่งยอมทำทุกอย่าง เปลี่ยนแปลงตนเอง ทำสิ่งที่ตนเองไม่ชอบหรือไม่ได้อยากทำ แต่ก็ยอมทำเพื่อให้อีกฝ่ายชอบ สนใจ หรือประทับใจอย่างฝืนๆ 10. ไม่มูฟออนจากคนเก่า (Orbiting) ปิดท้ายกันด้วยความสัมพันธ์แบบ " ไม่มูฟออนจากคนเก่า " จะมีลักษณะที่ว่า แม้ทั้งสองฝ่ายจะเลิกกันไปแล้ว ฝ่ายหนึ่งทำใจเดินหน้าต่อไปได้ แต่อีกฝ่ายยังไม่สามารถทำใจได้ และต้องติดอยู่ในภวังค์เดิมๆ ยังตามส่องโซเชียลมีเดียของแฟนเก่า ตามกดไลค์กดแชร์ที่โปรไฟล์ของอีกคนอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นความรักความสัมพันธ์รูปแบบใดก็ตาม หากคุณทั้งคู่สบายใจที่จะคบกันในรูปแบบนั้นๆ ก็คงไม่ผิดที่จะรักกันตามคำจำกัดความที่คุณพอใจ เพียงแต่ต้องระวังอย่าให้มีใครต้องเสียใจจากความสัมพันธ์ที่คุณเลือก --------------------------------------------- อ้างอิง: The Manual, Merriam-Webster