Student: I study Science – Math program. การตอบแบบนี้อาจจะดูไม่ค่อยน่าสนใจสักเท่าไหร่ แต่ถ้าลองเปลี่ยนเป็นประโยคที่ฟังดูสวยมากขึ้น เช่น Examiner: What do you study? Student: Currently, I'm planning to work as an engineer in the upcoming future. So Science-Math program is what I'm studying right now. เพียงน้องๆฝึกให้คล่องไปก่อนล่วงหน้า IELTS Speaking Part 1 ก็จะไม่ยากแน่นอนค่ะ Part 2: A Talk "A face to face interview with examiner" ใช้เวลาเตรียมตัว 1 นาที มีเวลาพูด 1-2 นาที พาร์ทนี้น้องๆต้องมีสมาธิดีๆเลยค่ะ ดูให้ดีว่าคำถามมีอะไรบ้าง จำเป็นต้องตอบให้ครบทุกคำถาม! เพราะฉะนั้นก่อนไปสอบจริง พี่ๆแนะนำให้ฝึกจดโน็ตไว้เลยค่ะ ตัวอย่างข้อสอบ IELTS Speaking Part 2 Describe a book you have recently read? you should say What kind of book it is? What is it about? What sort of people would enjoy it? and explain why you like it? DESCRIBE A PERSON YOU ARE VERY CLOSE TO. YOU SHOULD SAY: who this person is when, where and how you met him/her explain what it is about him/her you like so much. DESCRIBE THE JOB YOU WOULD MOST LIKE TO HAVE.
ระวัง! มีรถบรรทุกกำลังมา Watch out! I will be The Face Thailand. คอยจับตาดูไว้! ฉันจะเป็นเดอะเฟสไทยแลนด์ Really? คำนี้สามมารถออกเสียงได้ 3 โทนที่ให้ความหมายแตกต่างกันออกไป โทนสูงแสดงถึงความประหลาดใจ (อย่างนั้นจริง ๆ หรออออ) โทนกลางแสดงถึงความไม่ได้สนใจอะไรมากมาย (อ่อ เป็นอย่างงั้นเองหรอ) โทนต่ำแสดงถึงการเยาะเย้ย (อย่างงั้นเรอะ) Ex. Oh really? You get a new job today. Congratulation! เฮ้ย จริง ๆ หรอ! ได้งานใหม่วันนี้หรอ ยินดีด้วยนะเธอ You don't say คำนี้ไม่ได้แปลว่า เธอไม่ได้พูดนะจ๊ะ แต่เป็นคำอุทานอีกแบบ ประมาณว่าจริงเหรอ จริงดิ ประมาณ really? หรือ อย่ามาล้อเล่น (no kidding! ) ใช้พูดตอบเวลาเจอเรื่องเซอร์ไพรส์ ช็อก So what! คำนี้เป็นภาษาทันสมัยที่วัยรุ่นอเมริกันส่วนใหญ่ใช้กัน แปลว่า แล้วไง? Ex. So what! I don't really care. แล้วไง ใครแคร์จ๊ะ Shut up! / Quiet! / Hush! แปลว่า เงียบ! หรือ หุบปาก! คำนี้คงเคยได้ยินบ่อยสมัยเรียน Shut up! กับ Quiet! ความหมายค่อนข้างแรง เวลาพูดต้องสวมอินเนอร์ดุดัน ส่วนคำสุดท้าย Hush! จะเบาลงหน่อยออกเสียงคล้ายกับคำว่า 'ชู่ว! ' นั่นเอง Ex. Shut up! Stop talking why I'm teaching.
1. อย่าจำคำตอบ ไปตอบ อย่าจำคำตอบไปตอบ โดยเฉพาะพาร์ท 1 เพราะจะทำให้เราพูดไม่เป็นธรรมชาติ และผู้คุมสอบอาจตีความได้ว่าเราไม่สามารถสื่อสารได้ อาจทำให้เราโดนหักคะแนนไปง่าย ๆ 2. ห้ามใช้คำศัพท์ที่เราไม่คุ้นชินและไม่เคยใช้ อาจทำให้สื่อสารผิดพลาด เราอาจจะอยากโชว์สกิลคำศัพท์สวย ๆ หรือประโยคซับซ้อน ให้ผู้คุมสอบเห็น แต่พี่ ๆ แนะนำให้เลี่ยงการใช้คำศัพท์หรือประโยคที่เราไม่คุ้นชินจะดีกว่า เพราะมีโอกาสสูงที่เราอาจสื่อสารผิด ไม่ว่าจะเป็นการออกเสียง หรือใช้คำศัพท์ผิดบริบท และความผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ก็อาจส่งผลกับคะแนนของเรา ดังนั้น เลี่ยงดีกว่าค่ะ 3. พยายามใช้ประโยคหลาย ๆ แบบ ทั้งแบบ Complex / Simple และใช้ให้ถูกต้อง ลองใช้ประโยคหลาย ๆ แบบ หากอยากใช้ประโยคที่เราไม่คุ้นชินจริง ๆ ให้ลองพูดกับเพื่อนดูว่าเพื่อนเข้าใจเราหรือไม่ หรือลองพูดแล้วอัดวิดีโอเก็บไว้ดูว่าเราพูดผิดตรงไหนบ้าง จะได้ปรับปรุงให้ดีขึ้น ดังนั้น การฝึกพูดเกี่ยวกับเรื่องในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยใช้ Tense และโครงสร้างประโยคให้ถูกต้องนั้น เป็นสิ่งสำคัญที่ควรฝึกบ่อย ๆ ให้คุ้นชิน เวลาสอบจะได้พูดได้ถูกต้องและเป็นธรรมชาติ 4. อย่ากังวลเรื่องสำเนียง การสอบ Speaking เป็นการสอบตัวต่อตัว แน่นอนว่าเราอาจจะเขิน เกร็ง ทำให้ไม่ทันนึกถึงเรื่องสำเนียง แต่ผู้คุมสอบเข้าใจค่ะ ขอแค่เราสามารถสื่อสารให้เข้าใจได้ก็พอ ไม่ต้องกังวลเรื่องสำเนียง แต่ให้พยายามใช้เสียงต่ำ เสียงสูงในการพูด อย่าใช้เสียง Monotone เพราะภาษาอังกฤษคือภาษาที่ต้องเน้นเสียงหนัก-เบา ตั้งแต่ระดับคำไปจนถึงประโยค ดังนั้นการเน้นเสียงผิดหรือพูดเสียง monotone ก็อาจเปลี่ยนความหมายหรือเกิดความผิดพลาดในการสื่อสารไปเลยก็ได้ 5.
บ้านเกิดคุณมีการเปลี่ยนไปมากตั้งแต่คุณยังเป็นเด็กหรือไม่? Is there good public transportation in your hometown? บ้านเกิดของคุณมีระบบขนส่งสาธารณะที่ดีในหรือไม่? Do you think your hometown is a good place to bring up children? คุณคิดว่าบ้านเกิดคุณเป็นสถานที่ ที่ดีในการเลี้ยงดูลูกหรือไม่? คําถาม IELTS speaking: ที่อยู่อาศัย (Home) Where is your home? บ้านคุณอยู่ที่ไหน? Do you live in a house or a flat? คุณอาศัยอยู่ในบ้านหรือแฟลต? Who do you live with? คุณอาศัยอยู่กับใคร? Are there many rooms in your home? บ้านของคุณมีห้องมากมายหรือไม่? What is your favourite room? ห้องโปรดของคุณคือห้องไหน? How are the walls decorated? ผนังตกแต่งเป็นอย่างไร? What would you change about your home? คุณจะเปลี่ยนอะไรเกี่ยวกับบ้านของคุณไหม? Do you plan to live there in the future? คุณวางแผนที่จะอยู่ที่นั่นในอนาคตหรือไม่? What facilities are there near your home? มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้างใกล้บ้านคุณ What is your neighbourhood like? เพื่อนบ้านของคุณเป็นอย่างไร Do most people live in houses in your country? ในประเทศของคุณคนส่วนใหญ่อาศัยอยู่ที่บ้านหรือไม่?
คุณชอบวิชานี้หรือไม่? Do you get on with your colleagues? คุณเข้ากับเพื่อนร่วมห้องเรียนได้ไหม What was your first day like? การเริ่มเรียนวันแรกเป็นอย่างไร What are the main aspects of your subject? เนื้อหาหลักของวิชาเกี่ยวกับอะไร If you had the chance, would you change subject? หากคุณมีโอกาส คุณจะเปลี่ยนวิชาหลักที่เลือกเรียนหรือไม่? Do you plan to get a job in the same field as your subject? คุณวางแผนที่จะทำงาน ที่ตรงกับสาขาวิชาที่เรียนหรือไม่? คําถาม IELTS speaking: ภูมิลำเนาเดิม (Hometown) Where is your hometown? บ้านเกิดคุณอยู่ที่ไหน Do you like your hometown? คุณชอบบ้านเกิดคุณหรือไม่ Do you often visit your hometown? คุณกลับบ้านบ้างเกิดหรือไม่? What is your hometown like? บ้านเกิดคุณเป็นอย่างไร What is the oldest place in your hometown? สถานที่เก่าแก่ที่สุดในบ้านเกิดคุณคืออะไร? What is there for a foreigner to do or see in your hometown? มีอะไรที่ให้ชาวต่างชาติทำหรือเห็นในบ้านเกิดคุณ? How could your hometown be improved? บ้านเกิดของคุณจะดีขึ้นอย่างไร Has your hometown changed much since you were a child?