โพลีคริสตัลไลน์ ( Polycrystalline Silicon Solar Cells) ผลิตมาจากผลึกซิลิคอน สามารถที่จะนำเอาซิลิคอนเหลวมาเทใส่โมลด์ที่เป็นสี่หลี่ยมได้เลย ก่อนที่จะนำมาตัดเป็นแผ่นบางอีกที จึงทำให้เซลล์แต่ละเซลล์เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ไม่มีการตัดมุม สีของแผงจะออก น้ำเงิน ไม่เข้มมาก ข้อดีคือมีขั้นตอนกระบวนการผลิตที่ง่าย ไม่ซับซ้อนมีประสิทธิภาพการใช้งานในที่อุณหภูมิสูงได้ดี และมีราคาถูกกว่า เมื่อเทียบกับชนิดโมโนคริสตัลไลน์ ส่วนข้อเสียนั้นประสิทธิภาพในการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นกระแสไฟฟ้าโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 14-15% ซึ่งต่ำกว่าชนิดโมโนคริสตัลไลน์ทำให้มีประสิทธิภาพต่อพื้นที่ต่ำกว่า 3.
อย่างไรก็ตามเมื่อต่ำกว่า 200 อย่างไรก็ตามโรคนี้จะถูกจัดประเภทเป็นโรคเอดส์ (กลุ่มอาการภูมิคุ้มกันบกพร่องที่ได้รับ) ในช่วงเวลานี้การติดเชื้อฉวยโอกาสที่ร้ายแรงที่สุดเกิดขึ้นเนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันถูกบุกรุกอย่างมีประสิทธิภาพจากการติดเชื้อ ก่อนปี 2559 การนับจำนวน CD4 ถูกใช้เป็นวิธีในการพิจารณาว่าจะเริ่มการรักษาด้วยยาต้านไวรัสเมื่อใด แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงบทบาทเนื่องจากขณะนี้หน่วยงานระดับโลกให้การรับรองให้มีการเริ่มการรักษาด้วยการตรวจวินิจฉัยเอชไอวีทันที (แทนที่จะรอจนกว่าจำนวน CD4 จะลดลงต่ำกว่า 500 เซลล์ / มล. ตามแนวทางก่อนหน้านี้) จำนวน CD4 ยังใช้เพื่อตรวจสอบการตอบสนองต่อการบำบัดของแต่ละบุคคลด้วยการเริ่มใช้ยาต้านไวรัสก่อนหน้านี้โดยทั่วไปสามารถฟื้นฟูการทำงานของภูมิคุ้มกันของบุคคลได้ ในทางตรงกันข้ามผู้ที่เริ่มการบำบัดด้วยจำนวน CD4 ที่ต่ำมาก (ต่ำกว่า 100 เซลล์ / มล. )
1843-2553 เป็นมาตรฐานที่กำกับมาตรฐานแผงโซล่าเซลล์ แต่อย่างไรก็ตามแผงโซล่าเซลล์ ที่จะนำมาใช้ในประเทศอาจได้รับ มอก. 1843-2553, IEC61215 และ IEC61730 ด้วยก็ได้ แผงโซล่าเซลล์ (Solar panel หรือ Photovoltaics) คือการนำเอาเซลล์แสงอาทิตย์มารวมให้อยู่ภายในวงจรเดียวกัน เพื่อผลิตไฟฟ้ากระแสตรงออกมา (DC) ตัวแผงมีลักษณะเป็นแผงสี่เหลี่ยมซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ชนิด ได้แก่ 1. โมโนคริสตัลไลน์ (Monocrystalline Silicon Solar Cells) 2. โพลีคริสตัลไลน์ (Polycrystalline Silicon Solar Cells) 3. แผงโซล่าเซลล์ชนิดฟิล์มบาง (Thin Film Solar Cells) ซึ่งทั้ง 3 ชนิดนี้ต่างก็มีข้อดีและข้อเสียต่างกันออกไป รวมไปถึงเรื่องของราคา มีทั้งแบบราคาถูกและแบบราคาแพง ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ 1.
1. โปรคาริโอติค เซลล์ (prokaryotic cell) เป็นเซลล์ที่ไม่มีเยื่อหุ้มนิวเคลียสห่อหุ้มสารพันธุกรรม (genetic material) ได้แก่ เซลล์ของแบคทีเรีย ริคเก็ตเซีย และสาหร่าย สีน้ำเงินแกมเขียว (รูปที่ 1) 2.
การเปลี่ยนแปลงรูปแบบชีวิตบางอย่าง จะช่วยกระตุ้นการเพิ่ม stem cells ของร่างกาย ลดการรับประทานน้ำตาลลง เพราะเราพบว่ายิ่งเรากินน้ำตาลมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ stem cells ในร่างกายลดลงเร็วเท่านั้น นอนหลับให้เพียงพอ และเหมาะสม ดังจะเห็นได้จากคนที่อดนอนเป็นประจำ ริ้วรอยจะมาเร็วกว่าปกติ ไม่สูบบุหรี่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างเหมาะสม สามารถช่วยเพิ่มการแบ่งตัวของ stem cells ได้เป็นอย่างดี ผ่อนคลายความเครียด เช่น การนั่งสมาธิให้จิตใจสงบก็เป็นวิธีกระตุ้น stem cells ได้ดี ในทางการแพทย์เราสามารถเพิ่ม stem cells ได้หรือไม่?
ปกป้องการทำลายเซลล์จากรังสี UV มีผลทดสอบแบบ in vitro ในการป้องกันการ ทำลายเซลล์รังสี UV โดยนำ umbilical cord blood (UCBSC) ไป incubate ด้วยสารสกัด Malus Domestica stem cell ที่ความเข้มข้นต่างกันเป็นเวลา 24 ชม. จากนั้นนำวิเคราะห์ด้วย MTS assay ซึ่งเป็น การวัดจำนวนเซลล์ที่มีชีวิตและถูกทำลายจากรังสี UV โดยวัดจำนวนเซลล์หลังจากฉายรังสี UV แล้ว48 ชม. พบว่าผลของสารสกัด Malus Domestica stem cell จะช่วยปกป้อง UCBSC จากการทำลายของรังสี UV แม้ที่ความเข้มข้นต่ำ ดังรูป 3. ประสิทธิภาพในการ gene expression ใน senescent Dermal fibroblasts เมื่อใส่ H2O2 ลงใน cellular model ของ premature senescence ที่ถูกสร้างบน normal human dermal fibroblast จะแสดงสัญญาณชนิดต่างๆของการทำลายเซลล์ให้เสื่อมลง ซึ่ง โมเดลนี้ใช้ในการพิสูจน์คุณสมบัติ antisenescence (ต่อต้านการชราของเซลล์) ของสารสกัด Malus Domestica stem cell หลังจาก treat ด้วย H2O2 เป็นเวลา 2 ชม. จากนั้นนำ fibroblast cell ไปแช่ในสารสกัด Malus Domestica stem cell ที่เข้มข้น 2% เป็นเวลา 144 ชม. ซึ่ง gene expression ถูกวิเคราะห์ด้วย DNA array system comprising 150 probes โดยผลแสดงให้เห็นว่าสารสกัด Malus Domestica stem cell ช่วยเพิ่ม specific gene ได้ดังตาราง ซึ่ง Gene expression แต่ละตัวมีคุณสมบัติ คือ - Cyclin b1 นำไปสู่การ proliferation - Cyclin e1: tumor inducer - P53: tumor suppressor gene - Insulin-like growth factor 2: ตัวเพิ่ม cell proliferation - Heme oxigenase 1: anti oxidant enzyme โดย มีคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องกับ - Delay of senescence (การชะลอการเสื่อมของเซลล์) - ปกป้อง oxidative stress - ซ่อมแซม DNA ของเซลล์ 4.
คุณอาจเคยได้ยินมาบ้างเกี่ยวกับการบำบัดแบบสเต็มเซลล์ (Stem Cell Therapy) ซึ่งเป็นที่รู้กันจากข่าวต่างๆ ว่ามันคือ เวชศาสตร์ฟื้นฟู แต่จริงๆ แล้ว อะไรคือการบำบัดแบบสเต็มเซลล์กันแน่นะ?
1. แบบโมโนคริสตัลไลน์ (Monocrystalline Silicon Solar Cells) ลักษณะของเซลล์แต่ละเซลล์จะเป็นสี่เหลี่ยมมุมตัด มีสีเข้ม ทำมาจากผลึกซิลิคอนเชิงเดี่ยว ประสิทธิภาพสูงที่สุด สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากกว่าแบบฟิล์มบางถึง 4 เท่า และผลิตไฟฟ้าได้ดีเมื่อมีแสงน้อย อายุการใช้งานประมาณ 25 ปีขึ้นไป มีราคาที่สูง และถ้าหากมีสิ่งสกปรก ฝุ่น หรืออะไรที่ถูกบังแสงบางส่วนของแผงโซล่าเซลล์อาจจะทำให้เกิดความเสียหายได้ง่าย 2. โพลีคริสตัลไลน์ (Polycrystalline Silicon Solar Cells) ลักษณะของเซลล์แต่ละเซลล์จะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ไม่มีตัดมุม สีออกน้ำเงินไม่เข้มมาก ทำมาจากผลึกซิลิคอน ผลิตง่าย ไม่ซับซ้อน ราคาถูก ประสิทธิภาพจะดีกว่าถ้าใช้งานในที่ ที่มีอุณหภูมิสูงถ้าเทียบกับชนิดอื่น 3. แผงโซล่าเซลล์ชนิด ฟิล์มบาง (Thin Film Solar Cells) ทำจากการนำเอกสารที่สามารถแปลงพลังงานไฟฟ้ามาฉาบเป็นฟิล์มบางๆซ้อนกันหลายๆชั้น ประสิทธิภาพเฉลี่ยอยู่ที่ 7-13% ขึ้นอยู่กับวัสดุ ไม่ค่อยเป็นที่นิยม แต่มีราคาถูกผลิตได้ง่าย ใช้พื้นที่การติดตั้งค่อนข้างเยอะ มีประสิทธิภาพต่ำ ไม่เหมาะที่จะนำมาประยุกต์ใช้บนหลังคาบ้านเพราะมีพื้นที่น้อย